H a p p y N e w Y e a r 2 0 1 1

H a p p y N e w Y e a r 2 0 1 1

ขอให้ทุกคนมีความสุขกันมากๆ

...แต่ละปีที่ผ่านไป สุดท้ายก็เป็นแค่การโคจรเพียง 1 รอบ...และเรายังต้องโคจรกันเรื่อยๆ ไป...

Gone but never forgotteN

[Gone but never forgotteN]

หลายครั้งที่เคยนึกเสียดายอะไรบางอย่าง...บางอย่างที่กะจะทำ แต่ยังไม่ทำ

จนกระทั่งมันสายเกินไปแล้ว อยากบอกเพื่อนคนนึง ว่าเสียดาย ที่ยังไม่ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่เคยคุยกัน แกขอให้ฉันทำ logo ให้ ฝากฉันซื้อเสื้อที่เพลินวาน...

วันนี้...หลายๆ อย่างมันกระทันหันเกินไป แกเองก็ยังไม่น่าจะถึงเวลาที่ต้องไป

แต่ทำไงได้อ่ะ มันเกิดขึ้นแล้ว

...แล้วทุกคนก็ต้องเสียดาย กับสิ่งที่มันสายเกินไป...

ดีใจ...ที่การเจอกันครั้งสุดท้ายของเรา เป็นอะไรที่ดีๆ คุยกันตามประสาเพื่อน

แกก็ยังคงเป็นแกเหมือนเดิม (เจอกันก็ยังแอบกัดจิกฉันเหมือนเดิม)

ดีใจที่ยังมีโอกาสได้ลาแก ถึงแม้ว่าแกจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม

RIP...my friend...October 2010

[P i X] World Golf Salutes King Bhumibol

[P i X] World Golf Salutes King Bhumibol

อาจจะ up ช้าไปหน่อย...แต่เนื่องด้วยประสิทธิภาพของร่างกายเริ่มตกต่ำ

ถึงขีดสุด...วันนี้ลาป่วย (bronchitis กำเริบ) จ่ายค่ายาไปเกือบ 2000

อาการถึงจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากวันนั้นถึงวันนี้...ความประทับใจกับการเิดินตามดูนักกอล์ฟระดับโลก 4 คน ไปตามหลุมต่างๆ 18 หลุมใน golf course ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย Amata Spring Country Club ที่ชลบุรี ก็ยังคงอยู่ในใจไม่เสื่อมคลาย (ลิเกมากๆ )

ไปถึงปุ๊บ...ทุกคนก็กรูกันเข้าไปที่แท่น tee off หลุม 1 ตรงเวลามาก 11 โมงตรง 1st shot พอดีเด๊ะ...เห็นคนเดินรุมๆ ดุ่มๆ ตามไปเรื่อยๆ เราก็แอบอ้อม

ไปดักที่หลุม 2 ดีกว่า รอดูบน green น่าจะสนุกดี

หลังจากนั้น ก็มาดักรอก่อนตลอด เนื่องจากว่าแดดร้อนๆ มันเผาผลาญ

กำลังใจไปเยอะ...อย่างเช่นหลุมนี้ มาดักรอตรงกลางๆ fairway

หวังจะแอบดูนักกอล์ฟตอนเดินผ่าน

นักกอล์ฟทั้ง 4: Jaidee/ Casey/ Villegas/ Woods

และแล้วก็เริ่มเปลี่ยนวิธีการเป็นการดักรอตามหลุมต่างๆ ระหว่างทางก็เดินผ่าน

หลุมสำคัญ signature hole: 17th กรีนกลางน้ำ ต้องนั่งเรือไป putt

หลุมนี้มีคนขอมา ว่าอยากฟังเสียง driver กระทบลูกแบบใกล้ๆ

ก็เลยแอบมานั่งรอแบบไม่เกรงใจใครที่หลุม 13

ปรากฏว่าสมใจอยาก...ได้เห็นใกล้ๆ ได้ฟังเสียงชัดๆ

แต่บังเอิญจริงๆ หลุมนี้ par 3 ระยะสั้น เค้าไม่ใช้ driver กันอ่ะ 555

ระหว่างเดินแต่ละหลุม...เค้าก้อให้เรารอก่อนซักพัก ถึงจะเดินไปได้

หลุมนี้ถ้าว่ายน้ำข้ามไปได้ คงจะดัง ลงหน้า 1 เป็นแน่

และแล้วก็มาถึงหลุมสำคัญ...หลุมนี้มีคนตีตกน้ำนับไม่ถ้วน คาดว่าคงจะเป็นวิธีการตลาดของทางสนาม เพื่อให้คนซื้อลูกใหม่บ่อยๆ แล้วก็ให้แคดดี้เก็บลูกไปใหม่ๆ ไปขายได้...แต่น้ำที่นี่ ไม่รู้เป็นไง ดูไม่เป็นมิตรกะสิ่งแวดล้อมเลยอ่ะ

(ฟ้องด้วยภาพ)

จากนั้นมาดูบรรยากาศของหลุมสุดท้าย อยู่หน้า club house พอดี

ภาพนี้เป็นบรรยากาศตอนบ่ายๆ ตอนที่ยังไม่มีคน...

พอซักพักคนก็เริ่มเต็มดังภาพ

คนดูทุกคนพร้อมใจกันไปล้อมรอบ green ของหลุม 18 และบังเอิญว่า

มีการชิงดำกันนิดหน่อย คนก็เลย เฮกันเป็นพิเศษ

สรุปผล skin game ดังภาพ...Villegas ได้เงินรางวัลเยอะสุด

แต่ Tiger Woods น่าจะได้ค่าตัวเยอะกว่า 555

โฉมหน้าของผู้ใหญ่ใจดี...ขอขอบคุณ sponsor สำหรับงานนี้...ฟรีทั้ง ticket

ฟรีทั้งค่ารถ และแถมยังฟรีทั้งมื้อเย็น...อิอิ

ปิดท้าย trip ด้วยมื้อเย็นอร่อยๆ ที่แหลมแท่น บางแสน...กับกุ้งคั่วน้ำปลา

หอยตลับผัดพริกเผา และปลาเก๋าราดพริก

World Golf Salutes King Bhumibol

Amata Spring Country Club, Chonburi

8 November 2010

[F i L M] The Karate Kid

[F i L M] The Karate Kid

พลาดดูเรื่องนี้ในโรงหนัง ด้วยความตั้งใจ เพราะช่วงที่ผ่านมานี่ค่อนข้างยุ่งๆ

กับภารกิจหลายๆ เรื่อง...แต่ก็ไม่พลาดที่จะถอย DVD มา เพราะมีคนบางคนชอบดูหนัง action...แต่ก็รู้สึกว่ามันครบรสกว่าที่คาดไว้เยอะ เพราะเหมือนหนังเรื่องนี้ มาได้จังหวะกับเราพอดี...จังหวะเดียวกับชีวิตเลยทีเดียว!!!

เรื่องนี้ ว่าด้วยความลำบากของเด็กคนหนึ่ง ที่ต้องย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในที่ๆ ไม่คุ้นเคย ทั้งภาษา บรรยากาศ และความเป็นอยู่ แถมยังไปสร้างศัตรูด้วยความไม่ตั้งใจและความอ่อนแอของตัวเอง...เริ่มต้นด้วยการสู้ จบด้วยความพ่ายแพ้ นับครั้งไม่ถ้วน จนกระทั่งกลายเป็นความหดหู่และการจำนนต่ออุปสรรคนั่นเอง แต่แล้วโชคชะตา ก็นำพาครูผู้ที่จะชี้นำเด็กคนนี้ให้ไปสู่เส้นทางของชัยชนะได้ แต่ด้วยอุปสรรคอีกนานับประการ ทั้งครูและเด็ก ก็ได้ร่วมฝ่าฝันไปด้วยกัน ผลัดกันสั่ง ผลัดกันสอน...จนในที่สุด เขาก็เอาชนะได้ด้วยตัวของเขาเอง...ขนลุก!!!

ดูไป ก็ทำน้ำตาไหลกันไป 555

ไม่อยากจะบอกว่ามันตรงกับจังหวะของชีวิตเราอย่างไร เพราะคงจะไม่มีใครอยากสนใจเรื่องของชาวบ้านหรอก...แต่อยากจะบอกว่า อะไรๆ มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น...ถ้าเราตั้งใจและมุ่งมั่นกับมันจริงๆ ความสำเร็จ มันไม่ได้แค่เติมน้ำร้อน

แล้วก็พร้อมที่จะกินหรอกนะ 555

มีอยู่เรื่องนึงที่ข้องใจมากๆ คือว่า เรื่องนี้มันแข่ง ฝึกกังฟูกันทั้งเรื่อง ไม่เห็นมีใครเล่นคาราเต้เลยซักคนอ่ะ...ไหงชื่อว่าคาราเต้คิดง่ะ งงจริงๆ อิิอิ

DVD collections...October 2010

++ สุดท้าย ฝากถึงพี่ๆ น้องๆ แฟนๆ blog ด้วยนะ ที่เราหายไปนาน

ตอนนี้อะไรๆ มันก็พอจะเข้าที่เข้าทางบ้างแล้ว ว่างๆ ก็จะกลับมา update อะไรๆ ให้ทุกท่านได้รับกันต่อไปนะจ๊ะ ++

[P i X] Single Party

[P i X] Single Party

เนื่องจากช่วงนี้มีเพื่อนมาเยือนเมืองกรุงบ่อยครั้ง...เราจึงต้องมีนัด meeting กันบ้าง เพื่อที่จะไม่ลืมหน้ากัน ด้วยครั้งที่เราจากกันมานาน...นับสิบปี เมื่อสัปดาห์ก่อนก็นัดร้านนึง...แต่สัปดาห์นี้ ก็เลยลองไปอีกร้านนึง...โดยคาดว่าเราจะไปร้านละครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีการไปเยือนซ้ำ...จึงเป็นที่มาของ "single party" ซึ่งอาจจะหมายถึงชมรมคนโสดก็เป็นได้ (อันนี้แล้วแต่การตีความของเหล่าสมาชิก)

จบจาก party นี้...ก็เลยมีความพยายามที่จะนัดกันเที่ยว "หัวหิน" อีกครั้ง หลังจากที่ล้มเลิกไปแล้วรอบนึง...หวังว่าคราวนี้คงจะไม่ล่มอีก แต่ไม่รู้ว่าจะมีสมาชิกซักกี่คู่...!?! 555 ติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ

++ เนื่องด้วยช่วงนี้มีอันต้องติดธุระอันเนื่องมาจากการรนหาที่ของตัวเอง...เพิ่มความลำบากครั้งใหม่ให้กับชีวิต...จึงขออภัยที่ไม่ค่อยได้อัพบล็อกและเฟสเหมือนอย่างเคย...ถ้าความยากเข็ญได้ผ่านพ้นไป คงจะมีโอกาสได้อัพบ่อยกว่านี้อีก...อันนี้ขึ้นกับกุศลผลบุญที่ทำมา...สาธุ ++

[5 5 5] Toilet Training

[5 5 5] Toilet Training

มาฝึกสมองระหว่างเข้าห้องน้ำกันเถอะ...เปลี่ยนจากการนั่งอ่านหนังสือ สูบบุหรี่ กินกาแฟ เป็นการนั่งเพ่งสมาธิ เล่นเกมประเทืองปัญญาในห้องน้ำกันดีกว่า...ม้วนนึงน่าจะใช้ได้ซัก 1-2 อาทิตย์....เริ่มจาก Sudoku แล้วตามด้วย Crossword

แล้วมาเบรคความเครียดด้วยการระบายสีตามช่อง

จากนั้นก็มาฝึก mind training (ที่เค้าบอกว่าควรทำทุกๆ เช้า)

กลับมาเพ่งสมาธิอีกครั้งกับ maze game

แล้วมาทำโจทย์การคำนวณต่อ

ปิดท้ายด้วยการพับกระดาษแบบง่ายๆ

มาเพิ่มความสุขไปพร้อมกับการฝึกสมองในตอนเช้ากันดีกว่า...ทุกแบบสามารถหาซื้อได้ ลอง search ใน internet ดู เพราะมีขายหลายเว็ปเลย ราคาก็ต่างๆ กัน...มันเยอะอ่ะ เลยไม่รู้จะให้ credit เว็ปไหนดีอ่ะ...555

[F i L M] Hachi

[F i L M] Hachi

กลั้นใจดูเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องเสียน้ำตา...แต่ก็รู้ทั้งรู้ ยังไงก็ยังอยากดู

เลือกดู version นี้ แทนการดู version ดั่งเดิมของญี่ปุ่น เพราะคิดว่าน่าจะสะเทือนใจน้อยกว่า...ที่ไหนได้ น้ำตามันไหลเป็นสายน้ำตกแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว...ตอนแรกๆ ก็นั่งอมยิ้มกับความน่ารักของเจ้าลูกหมาพันธุ์ "อากิตะ" พันธุ์ที่เค้าว่ากันว่า เป็นหมาพันธุ์แรกที่มนุษย์เอามาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เป็นหมาที่จงรักภักดี แต่ไม่ชอบเอาใจเจ้าของ...ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าหมาไทยมันเป็นอย่างนั้นรึเปล่า แต่ที่แน่ๆ ฝรั่งเนี่ย มีค่านิยมที่ต้องฝึกหมาให้วิ่งไปคาบบอลที่โยน...เราเองก็ไม่เคยฝึกหมาแบบนี้ รึหมาไทยนั้น ก็สืบสายพันธุ์มาจากเจ้าอากิตะนี่เหมือนกัน...ไม่อยากเล่าเรื่องอะไรมาก ไม่อยากรับรู้อะไรเยอะ รู้แต่ว่าปล่อยอารมณ์ให้มันเป็นไปแบบธรรมชาติที่สุด...แล้วพลันนึกถึงเจ้าหมาที่บ้าน 2-3 ตัวที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าไปเกิดเป็นตัวอะไรไปแล้ว...เฮ้อ!!!

DVD collections...October 5, 2010

[P i X] Veggie week 2010

[P i X] Veggie week 2010

ปีนี้จะเป็นปีแรกที่ตั้งใจจะ "ถือศีล กินเจ" ให้ครบ course ทั้ง 10 วัน ปีนี้ตั้งแต่วันที่ 8-16 ต.ค. แต่ก็มีเหตุ (อีกละ) ให้ต้องลดลงเหลือ 7 วัน (ก็ยังดี) แถมยังต้องเริ่มก่อนชาวบ้านเค้าอีก...เพราะเพื่อนๆ รอ party วันพุธหน้าอยู่...เพราะฉะนั้น เริ่มมันซะตั้งแต่วันที่ 6 จะได้เลิกวันที่ 13 เพื่อออกไป hang out กับเพื่อนๆ ...เฮ้อ!!!

..........

แต่ปีนี้เริ่มต้นดีมากๆ ด้วยเมนูอร่อยๆ จาก S&P เมนูที่เห็นในรูปคือเมนูโปรดสำหรับปีนี้เลย...ยำวุ้นเส้นเห็ดหลายอย่าง...อร่อยมากๆ ถือเป็นการจูงใจในการกินเจปีนี้ได้อย่างดี พร้อมด้วยข้าวอบหนำเลี้ยบเจ แล้วก็ผัดกะเพราเจ...yummy!!!

..........

ปีนี้ตั้งใจมาก เพราะอยากที่จะเอาชนะใจตัวเองให้ได้ เพราะถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะไปคิดการณ์ใหญ่ ทำอะไรได้หล่ะ ชีวิตนี้...ตอนนี้พยายามขจัดมารผจญในใจออกไปให้หมด...เอาใจช่วยด้วยทุกท่าน!!!

ยังมีเมนูอาหารเจอร่อยๆ จาก S&P อีกเยอะ ดูได้จาก http://www.snpfood.com

[F i L M] Dear John

[F i L M] Dear John

มาเพิ่มดีกรีความเศร้ากับหนังเรื่องนี้...ที่มีชื่อไทยว่า "รักจากใจจร" 555

ที่หยิบชื่อไทยมาพูดถึง เพราะว่ามันแปลกๆ ดีอ่ะ คือว่าพยายามจะเอาชื่อมา link กัน จาก John กลายเป็น จร ง่ะ เลยนั่งดูนอนดูหนังเรื่องนี้ แล้วพยายามจะคิดชื่อไทยให้มั่ง (เหมือนที่เคยทำเมื่อครั้งก่อน) แต่แล้วก็ลืมคิดไป เพราะมัวแต่อินกับหนัง...555 ดูไปดูมา เห็นพ่อหนุ่ม Channing Tatum โชว์หุ่นล่ำๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นที่ไหน...ไม่ใช่แถวบ้านหรอกอ่ะ...เรื่อง Step Up นั่นเอง...ดูๆ ยิ่งดูยิ่งเท่ง่ะ...555 เพ้อและ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า

..........

ดูเรื่องนี้แล้วมันเศร้าๆ ไงไม่รู้ คิดถึงเรื่องของตัวเองอยู่ไม่น้อยเลย ว่าเหตุการณ์แบบนี้ ถ้ามันเกิดขึ้นกับเราจะทำยังไง ส่วนตัวเราเองหากเจอคนที่ใช่ แต่สถานการณ์มันไม่อำนวย เราก็ต้องทำใจ เรื่องนี้มัน effect ได้ทั้งเรื่องของความรัก และยังเรื่องของความหมกมุ่นอะไรบางอย่าง ของใครบางคน...แต่จะเป็นเรื่องไหน มันก็เศร้าอยู่ดีอ่ะนะ...เฮ้อ!!!

DVD collections...October 5, 2010

[F i L M] Chapter 27

[F i L M] Chapter 27

ไม่ได้เป็นแฟน The Beatles ไม่ได้คลั่ง John Lennon แต่ฟังเพลงของพวกเค้า

มาตั้งแต่เด็กๆ (กระชากวัยสุดฤทธิ์) และไม่เคยรู้มาก่อนว่า John Lennon ถูกลอบยิง...แต่เพิ่งมารู้จากเรื่องนี้ว่า เค้าถูกลอบยิงในปี 1980 ปีที่เราเกิดพอดิบพอดี ในวันที่ 8 ธันวาคมปีนั้น ถูกถ่ายทอดเรื่องราวจากคำสารภาพของมือปืนผู้สังหาร...ซึ่งดูจากเรื่องนี้แล้ว เราว่า "เพี้ยน" จะเป็นคำที่เหมาะกับเค้าที่สุด

(ซึ่งดูจาก poster ก็จะพอเดาออก)

DVD collections...October 4, 2010

[F i L M] The Ghost Writer

[F i L M] The Ghost Writer

เพิ่งรู้จากเรื่องนี้แหละ ว่าคำนี้ "ghost writer" หมายถึงนักเขียนที่คอยเขียนเรื่องชีวประวัติให้คนอื่นๆ โดยเฉพาะพวกดารา หรือพวกที่มีชื่อเสียง ที่เขียนหนังสือ

ไม่เป็น...555 รู้แล้วก็เลยเอามาดูซะเลยว่า การต้องเขียนเรื่องราวชีวิตของชาวบ้าน เสมือนเป็นชีวิตของตัวเอง มันมีความยากลำบากยังไง...

เรื่องนี้มันค่อนข้างซับซ้อนและอันตราย เพราะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ที่พยายามเขียนหนังสือเกี่ยวกับตัวเอง โดยที่ ghost writer คนแรกเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ ก่อนที่งานจะเสร็จสิ้น ร้อนถึงพระเอกของเรา ที่ต้องเข้ามารับช่วงต่อ ก่อนที่จะได้พบข้อมูลอะไรบางอย่าง ทำให้ชีวีตเขาต้องเสี่ยงตายเหมือนอย่างที่ ghost writer คนแรกประสบมา...

มันเป็นเรื่องของการเมือง ที่มีเบื้องลึก เบื้องหลัง ความแค้น และการแฝงตัว และเรื่องบางเรื่องเราก็ไม่ควรรู้เห็นอะไรมากมายเกินไปนัก...มันจะกลายเป็นภัยมืด ย้อนกลับเข้ามาหาตัวเราเองโดยไม่รู้ตัว!!!

DVD collections...October 4, 2010

[F i L M] Death at a Funeral

[F i L M] Death at a Funeral

หลังจากที่ชอบดู Six feet under ก็รู้สึกสนุกกับการที่ฝรั่งมีบริการการจัดงานศพแบบครบวงจร เลยนึกอยากดูเรื่องนี้ขึ้นมา โดยที่ไม่ได้รู้ background มาก่อนว่าหนังจะเป็นยังไง...แค่รู้สึกว่า เบื้องหลังความโศกเศร้า จะทำให้เราฮาได้อย่างไรบ้าง...ก็ต้องขอบอกว่ามันอาจจะเกินจริงไปหน่อย แต่มันก็มีสิทธิ์เป็นไปได้แทบทุกเรื่อง--แต่ขอเตือนสำหรับคนที่ไม่ค่อย get กับมุขขำๆ แบบฝรั่งว่า

ดูแล้วอาจจะหลับได้!!!

..........

เรื่องราวมันวุ่นๆ เมื่อหัวหน้าครอบครัวได้สิ้นลมหายใจลง ลูกๆ เองก็ต้องจัดการกับทุกอย่าง เนื่องเพราะไม่อยากให้แม่ผู้เศร้าโศกต้องมาเป็นภาระ...ลูกคนโตกลับไม่โตอย่างที่คิด ส่วนลูกคนเล็กก็คิดว่าตัวเองแน่กว่าพี่ชาย แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่มีใครได้เรื่องได้ราวซักคน...บรรดาญาติๆ ที่กลับมารวมตัวกันได้เพราะงานศพนี้ ก็หอบเอาความยุ่งเหยิง วุ่นวายมาฝาก ทั้งเรื่องลุงผู้พิการโมโหร้าย...น้าชายที่พยายามจะจีบแม่หม้ายหมาดๆ กับลูกสาวที่พาว่าที่ลูกเขย (ที่พ่อไม่ปลื้ม) เข้ามาป่วน ด้วยอาการเมายาโดยไม่ได้ตั้งใจของน้องชายตัวแสบ...เรื่องมันยิ่งอีรุงตุงนังเพิ่มขึ้น ด้วยมีอดีตอันดูดดื่มของพ่อ พยายามมา blackmail อีกต่างหาก...เรื่องมันยุ่ง เหมือนยุงตีกันอย่างนี้...แต่ท้ายที่สุด พวกเขาก็ต้องพยายามคลี่คลายทุกสิ่งอย่างด้วยตัวเอง เพื่อให้มันจบแบบ happy ending...เฮ้อ กลุ้ม!!!

DVD collections...October 3, 2010

[w O w] 4 Glasses in 1

[w O w] 4 Glasses in 1

เห็นงาน design ชิ้นนี้แล้วอดไม่ได้ที่จะเอามาอวด มันเป็นผลงานที่ตอบสนองความต้องการส่วนตัวของเราได้เป็นอย่างดี...เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแต่ละประเภท มันต้องมีภาชนะที่เหมาะสมต่อการดื่ม ก็จะเพิ่มความรื่นรมย์ได้อีกมาก

ตั้งแต่แก้วธรรมดา เอาไว้ืดื่มน้ำ...เปลี่ยนเป็นแก้วที่ล้มลุกได้ เอาไว้เขย่าพวกเหล้าต่างๆ ...จนถึงการต่อก้านเพิ่มขาตั้ง กลายเป็นแก้วไวน์เก๋ๆ ...และสามารถถอดเอาฐานออก กลายเป็นแก้วแชมเปญ ที่เหมาะกับการดื่มฉลองเป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่า from Water to Wine, Champagne or Cognac กันเลยทีเดียว

ขอบคุณผลงานการออกแบบจาก Utopik Design Lab

ถ้ามันมีขายแล้วไม่แพงเกินไป ก็น่าหามาเก็บไว้ที่บ้านซักคู่อ่ะนะ

[P i X] Once in the lifetime @ Siriraj

[P i X] Once in the lifetime @ Siriraj

ครั้งแรกในชีวิตจริงๆ กับการรอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ที่โรงพยาบาลศิริราช มันเป็นอะไรที่ไม่ได้คาดคิด คาดฝันมาก่อน

เพราะว่าอยู่ๆ ตอนแรกก็แค่จะไปเดินเล่นแก้เซ็งที่นั่น

แต่ก็ได้นั่งรับเสด็จในระยะแค่ 1 เมตร (ใกล้มาก)

เบื้องหลังการถ่ายทำ เพื่อเอาไปเป็นส่วนประกอบใน project ภาพยนตร์

ตอนแรกพยายามจะอยู่หลังกล้องตลอด แต่สุดท้ายก็ต้องหลบไปอยู่ข้างๆ

เพราะไม่ได้ใส่สูทแล้วก็ไม่ได้ใส่ปลอกแขนช่างภาพง่ะ

วันนี้ต้องให้พี่ๆ ผู้กำกับมาแปลงกายเป็นตากล้องเองทั้งสองคน

และจำต้องให้ใส่สูทแบบเต็มยศ (ซึ่งปกติเกิดมาไม่เคยใส่เลยใช่ม้า...)

ไปถึงศิริราชตั้งแต่บ่าย 3 กว่าจะหาที่จอดรถได้ก็ 4 โมง เข้าไปนั่งคุย นั่งรอ...กว่าจะได้ถ่ายก็น่าจะอยู่ที่ 2 ทุ่มง่ะ รอกันเข้าไปเถอะ รอท่ามกลางตำรวจ ทหาร

และข้าราชบริพารทุกหมู่เหล่า

เวลาออกมาจากห้องทีนึง...ก็จะมีสายตาของบรรดานักข่าว ช่างภาพเป็นกะตั๊ก มองมาพร้อมๆ กัน มันก็แปลกๆ ดีเพราะทุกคนใส่สูทหมดเลยง่ะ...

ออกไปสูดบรรยากาศข้างนอก ก็พบกับเจ้าตัวนี้ โยนเฟรนซ์ฟรายด์ให้ก็ไม่กิน

หยอกกับมันพอให้หายเหงาได้มั่ง...อิอิ

พอกลับมาที่ห้องก็ไม่มีอะไรทำ (ว่างตั้งแต่ 6 โมงจนถึง 2 ทุ่มง่ะ) ก็มานั่งพินิจพิจารณากล้องที่เค้าเอามาใช้ถ่ายวันนี้...ดูเผินๆ ก็เป็นกล้องภาพนิ่งอ่ะ แต่เอามาถ่ายเป็นหนังแบบ super HD เลยอ่ะ

ก่อนกลับก็ขอเก็บภาพพระบิดาแห่งวงการแพทย์ไทยไว้เป็นที่ระลึกอีกครั้ง

แต่ตอนนี้แสงหมดแล้ว เลยอาศัยแสงในตึกช่วยด้วย

พร้อมกลับไปด้วยความปลื้มปิติอย่างที่สุด...กับครั้งแรกในชีวิต

Thanx: P'Suyu/ P'Pu & teams/ K.Mai & all staffs

[F i L M] Devil-welcome back SFW

[F i L M] Devil-welcome back SFW

ดูหนังสยอง...ฉลองการกลับมาของ CentralWorld ที่ SFW

ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าจะดูอะไรดี แต่เวลามันได้ ก็เลยโดนเรื่องนี้เข้า...เนื่องด้วยเห็นคำว่า M.Night Shyamalan ก็เลยหลวมตัวซื้อตั๋วเข้าไปดู โดยที่ไม่ได้รู้ background ของหนังเลย ปรากฏว่า หนังทำให้อึดอัดได้ดีทีเดียว...เพราะฉะนั้นเลยคิดว่าโชคดีที่มาดู หนังแบบนี้ดู DVD ที่บ้านต้องไม่ได้บรรยากาศแบบนี้แน่ๆ เรื่องราวมันก็เป็นอะไรที่ไม่เรียบ เรียกว่าหักมุมไปๆ มาๆ ให้คนดูพอเวียนหัวเล่น

ข้อความต่อไปนี้อาจเป็นการสปอยล์...

ใครที่อยากดูแต่ไม่อยากให้เล่าก็ไม่ต้องอ่านนะจ๊ะ

++ เนื่องจากว่าหนังเรื่องนี้ต้องการให้คนแปลกหน้า 5 คน มาอยู่ในสถานการณ์เดียวกันโดยไม่ได้เจตนา แต่เรากลัีบรู้สึกว่ามันมีเจตนามากเหลือเกิน เพราะมีการวิ่งมากดลิฟท์หลังจากที่ลิฟท์กำลังจะปิดไปแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน...แต่ก็นั่นแหละ point ของหนังเรื่องนี้มันก็คือ ทุกอย่างล้วนมีเจตนาทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญหรอก ที่ทุกคนจะมาอยู่รวมกันได้

++ เีสียดายว่าตัวละครบางตัว มันน่าจะมีมิติมากกว่านี้ เรื่องราวมันเลยกระจุกมาอยู่ตรงกลางกันเกินไป สรุปก็คือ ขาด detail ขององค์ประกอบภายนอกไปหลายอย่าง ทั้งเรื่องการกระโดดตึก เจตนาของคนบางคน ตัวดำเนินเรื่องที่หาจุดจบไม่ได้ แล้วก็การสืบสวนที่ขาดบทสรุปง่ะ...เสียดายจริงๆ ว่ามันน่าจะมีให้เห็นอยู่บ้าง

++ การค่อยๆ ทำให้คนน่าสงสัยทีละคน และเปลี่ยนไปเรื่อยๆ คล้ายกับว่ากำลังปั่นหัวเราอยู่นั้น เป็นวิธีการที่ใช้ได้เลยทีเดียว...ส่วนตัวแล้วชอบหนังที่เดายากนิดๆ มีปมหน่อยๆ แต่ต้องมาเฉลยแบบสมเหตุสมผลทีหลัง

++ ถ้าทุกสิ่งอย่าง ไม่ได้สรุปแล้วทำให้จบแบบที่มีอภินิหาร มันจะดีมากๆ เลยอ่ะ...เพราะส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบอารมณ์ปีศาจ (ชอบผีมากกว่า)

++ ขอบคุณทาง production ที่พยายามทำให้เรารู้สึกไม่ขาดทุนกับหนังเรื่องนี้ เพราะเข้าใจว่าเรื่องจริงๆ มันมีแค่ในตึก และโดยเฉพาะในลิฟท์เท่านั้น แต่ก็ยังอุตสาห์เพิ่ม shot ในช่วง title และอีกหลายๆ shot เพื่อให้มันดูลงทุนมากขึ้น...แต่ก็ยังแอบไม่ค่อยเข้าใจว่า อุตส่าห์เจาะผนังเข้าไปแล้วตั้งเยอะ แต่ตอนจบ ทำไมมางัดลิฟท์แบบธรรมดาอ่ะ ไม่เห็นเจาะทะลุเข้าไปเลยง่ะ...แปลกใจจริงๆ

SF World Cinema...October 1, 2010